เมื่อวันก่อนมีคุณแม่ของนักเรียน ที่ต้องการจะมาสมัครเรียน โทรติดต่อมาบอกว่า "น้องจะสอบอาทิตย์หน้านี้แล้ว อยากให้คุณครูช่วยติวให้ ช่วยคุณแม่หน่อย"
คำแรกที่พี่บอกกับคุณแม่ไป คือ พี่ทำไม่ได้ ตัวพี่เองตั้งปณิธานไว้ว่า ถ้าพี่จะสอนหนังสือ พี่จะงกไม่ได้ เหตุผลที่พี่ตอบไปแบบนั้นคือ
1. คณิตศาสตร์แบบของพี่ไม่ใช่ท่องสูตรแล้วเข้าไปนั่งมึนแล้วทำข้อสอบไม่ได้
2. ตัววิชาแต่ละบทไม่สามารถทำให้บรรลุเป็นอรหันต์ในวันเดียวได้
3. น้องๆ ต้องฝึกฝน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำโจทย์เป็นหลัก เวลาแค่ 2 ชม. ต่อให้พี่เทพมากขนาดไหนก็ทำไม่ได้
แต่คุณแม่ท่านนี้ก็ขอต่อรอง คือ "น้องเรียนโอเคนะ สูตรต่างๆ เขาจำได้หมด เพียงแต่ตีโจทย์ไม่แตก แถมอาจารย์จาก มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ แต่อยู่แถววิภาวดี - -*) ที่แม่จ้างมาสอนที่บ้าน มาสอน แล้วนั่งเสียเวลาเป็น ชั่วโมงๆ แต่ตีโจทย์ที่โรงเรียนของน้องไม่ได้ คุณแม่ก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง"
คำถามที่พี่ถามคือ "น้องเขาอยากเรียนจริงๆ หรือคุณแม่บังคับ" ผู้ปกครองที่โทรหาพี่ทุกคนพี่จะต้องถามแบบนี้ เพราะถ้าตัวเด็กไม่ได้อยากจะเรียนจริงๆ คนสอนก็ไม่มีแรงจะสอน ดังนั้นถ้าผู้ปกครองท่านใดผ่านมาอ่านบทความนี้เข้า กรุณาเลิกทำนิสัยบังคับลูกเรียนได้แล้วนะครับ เพราะถ้าเด็กไม่อยากเรียน ครูผู้สอนจะรู้สึกแย่กว่า เด็กที่อยากเรียนแต่ไม่ตั้งใจเสียอีก
โดยสรุป คุณแม่บอกว่า น้องเขาอยากเรียน อยากตีโจทย์ให้ได้ ไม่งั้นสอบจะลำบาก ซึ่งพี่ตกลงจะติวให้ แต่พี่ออกตัวกับคุณแม่เขาไว้ก่อนเลยว่า ด้วยเวลาขนาดนี้ คงจะสอนได้แต่ตะลุยโจทย์ไป ซึ่งคงคาดหวังอะไรมากไม่ได้นัก อีกอย่าง Case นี้เป็นน้อง ม. 3 ซึ่งปกติ พี่จะไม่สอน เพราะหลักๆ พี่จะสอนแต่เด็ก ม. ปลาย เพราะ ม. ปลาย มักจะรู้ชะตากรรมของตัวเองว่า จะต้อง Entrance ให้ได้ จะมามัวเหยาะแหยะไม่ได้อีกต่อไป
จำได้ว่าสมัยเด็ก พี่ก็เรียนๆ เล่นๆ ไม่เรียนพิเศษเลยจนกระทั่ง ม. 4 เทอม 1 ซึ่งเกรดตกแบบไม่เคยเป็นมาก่อน จึงคิดได้ว่า แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว ต้องฮึดทำเกรดได้แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น